เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตรวจสารเสพติด ที่ใครหลายคนไม่เคยรู้มาก่อน

วัตถุประสงค์ของการตรวจสารเสพติดไม่ใช่เพื่อทำให้พนักงานเป็นอาชญากรหรือขาดความไว้วางใจ แต่เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ปลอดภัย เนื่องจากพนักงานที่ใช้ยาเสพติดมีแนวโน้มที่จะมีส่วนในอุบัติเหตุในที่ทำงานมากกว่าพนักงานคนอื่นถึง 3.5 เท่า แต่ภัยมีแก่ผู้อื่นมากกว่าตนเอง สภาความปลอดภัยแห่งชาติพบว่า 80% ของผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไม่ใช่พนักงานที่ใช้ยาเสพติด แต่เป็นผู้บริสุทธิ์ที่ยืน

เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บเหล่านี้ นายจ้างจึงใช้ ที่ตรวจสารเสพติดพื่อคัดกรองก่อนการจ้างงาน สุ่มตรวจ และประเมินหลังการลา เมื่อบริษัทต่าง ๆ ใช้ที่ตรวจสารเสพติด จะทำให้สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับพนักงาน 

อย่างไรก็ตาม นายจ้างบางคนกังวลว่าการทดสอบสารเสพติดด้วยที่ตรวจสารเสพติดจะไม่ถูกต้องทั้งหมด หรือพนักงานที่ติดยาจะหาวิธีที่จะผ่านพ้นไปได้ สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตรวจสารเสพติด ทั้งหมด ดังนั้นบทความต่อไปนี้จะมาบอกความจริงของการตรวจหาสารเสพติดให้คุณทราบ

เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตรวจสารเสพติด

การดื่มน้ำมาก ๆ จะทำให้สารเสพติดในปัสสาวะเจือจาง

พนักงานส่วนใหญ่คิดว่าการดื่มน้ำมาก ๆ จะทำให้ปัสสาวะเจือจางในขณะที่จะมีการทดสอบสารเสพติด โดยนี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตรวจสารเสพติด ซึ่งความจริงก็คือการดื่มน้ำมาก ๆ ไม่สามารถช่วยให้ผ่านการทดสอบสารเสพติดได้ เนื่องจากเป็นข้อความเท็จที่มีอยู่ในโฆษณาออนไลน์ ขั้นตอนการทดสอบสารเสพติดสมัยใหม่ด้วย ชุดตรวจสารเสพติด สามารถทดสอบการเจือปน การเจือจาง และสิ่งแปลกปลอมได้ ส่งผลให้มีการทดสอบสารเสพติดในปัสสาวะมีผลบวก ยิ่งคุณดื่มน้ำมากเท่าไหร่ โอกาสของการบิดเบือนของระดับครีเอตินีนก็จะยิ่งมากขึ้นและทำให้เกิดผลการเจือจางในเชิงบวกหรือเชิงลบ

สารเสพติดทั้งหมดจะอยู่ในร่างกายในระยะเวลาที่เท่ากัน

เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตรวจสารเสพติด เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนคิด ซึ่งที่จริงแล้ว แต่ละคนจะมีรูปลักษณ์ทางชีววิทยาและทางกายภาพที่แตกต่างกัน ระยะเวลาที่แน่นอนที่ยาจะคงอยู่ในร่างกายจึงแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณยา อายุ น้ำหนัก เพศของบุคคล และสุขภาพร่างกาย ยาแต่ละชนิดมีองค์ประกอบทางเคมีเฉพาะ ผู้ใช้ยาจะรับประทานในปริมาณที่แตกต่างกันและในระยะเวลาที่ต่างกัน ซึ่งหมายความว่ามีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อกรอบเวลาการทดสอบสำหรับยาแต่ละตัว

สิ่งสำคัญคือต้องมีการตรวจสอบอย่างรวดเร็วเพื่อให้แน่ใจว่าตรวจพบสารเสพติดได้ตรงเวลา ดังนี้

  • ยาบ้า 2-4 วัน
  • โคเคน 2-4 วัน
  • กัญชา 5-30 วัน
  • มอร์ฟีน 2-4 วัน
  • แอมเฟตามีน 1-3 วัน

การทดสอบยาในปัสสาวะเป็นเรื่องปกติเพราะมีราคาถูก ไม่ใช่เพราะแม่นยำ

อีกหนึ่งเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตรวจสารเสพติดก็คือการทดสอบสารเสพติดจากปัสสาวะด้วย ที่ตรวจสารเสพติด ราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่ายจริงเมื่อเทียบกับวิธีการทดสอบอื่น ๆ อย่างการตรวจจากผม เลือด และน้ำลาย ที่ตรวจสารเสพติดจากปัสสาวะถือว่ามีแม่นยำและได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความน่าเชื่อถือที่เป็น “มาตรฐานสากล” เนื่องจากสารเสพติดยังคงอยู่ในปัสสาวะเป็นเวลานานและมีความเข้มข้นสูงกว่าในน้ำลาย แม้ว่าการทดสอบสารเสพติดจากเส้นผมจะมีช่วงการตรวจจับสูงกว่าการตรวจปัสสาวะ แต่ก็ใช้เวลานานกว่าจะได้ผลลัพธ์ ซึ่งที่บริษัทเอ็นเจที แอร์ แอนด์ ซี โลจิสติคส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่าย ชุดตรวจสารเสพติด ในปัสสาวะมีให้เลือกหลายแบบ เช่น

แบบจุ่ม (Strip)

ปัสสาวะใส่ในภาชนะที่แห้งและสะอาด จากนั้นจุ่มแถบทดสอบลงไปในปัสสาวะ โดยให้ปลายลูกศรชี้ลง และระวังไม่ให้ปัสสาวะสูงเลยขีดที่กำหนดไว้บนแถบ จากนั้นวางแถบทดสอบในแนวราบ รอ 5 นาทีแล้วจึงอ่านผล

แบบหยอด (Cassette)

ปัสสาวะใส่ภาชนะที่แห้งสะอาด จากนั้นวางตลับทดสอบไว้บนพื้นในแนวราบ และใช้หลอดหยดดูดปัสสาวะขึ้นมา และหยดลงในหลุมที่อยู่บนตลับทดสอบ 3 หยด วางตลับทดสอบไว้ในแนวราบและรอ 5 นาทีจึงอ่านผล

หากปัสสาวะใสจะมีผลการทดสอบเป็นลบ

อันที่จริงการทดสอบสารเสพติดสามารถให้ผลบวกได้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ทานยาใด ๆ ก็ตาม ปัจจัยต่าง ๆ ที่ควบคุมการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ ได้แก่ เวลาทางพิษวิทยา เมแทบอลิซึมของร่างกาย และเวลาสำหรับกระบวนการตรวจหา ยาเสพติดหลายชนิดจึงอาจทำให้ผลการตรวจปัสสาวะเป็นบวกได้ ซึ่งรวมถึงยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ เช่น ยาระงับความรู้สึกและยาซึมเศร้า ดังนั้นความเชื่อที่ว่าถ้าปัสสาวะใสแล้วถือว่าไม่พบสารเสพติด จึงเป็นเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตรวจสารเสพติดนั่นเอง

การทดสอบยาในน้ำลายมีความถูกต้องน้อยกว่าการตรวจจากปัสสาวะ

การทดสอบสารเสพติดในน้ำลายให้การประเมินที่ครอบคลุมมากในเรื่องของการบริโภคยาและผลที่ตามมาของพนักงานต่อผลการปฏิบัติงาน การทดสอบสารเสพติดจากน้ำลายนั้นแม่นยำกว่าเพราะให้ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับการตรวจเลือด นอกจากนี้ การทดสอบน้ำลายสามารถระบุตัวยาหลักในร่างกายที่การตรวจปัสสาวะไม่สามารถทำได้ ตราบใดที่ยาหรือสารเมตาโบไลต์ของยายังมีอยู่ในกระแสเลือด การทดสอบน้ำลายก็สามารถตรวจพบได้ นอกจากนี้ การทดสอบยาในน้ำลายสามารถค้นหาสารประกอบประเภทต่างๆ ตั้งแต่แอลกอฮอล์ สาร THC และโคเคน แม้แต่นิโคตินก็แสดงให้เห็นในการทดสอบน้ำลาย

การทดสอบยาเป็นสาเหตุของความวิตกกังวลและความห่วงใยของพนักงาน การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องช่วยให้พนักงานสามารถงดเว้นจากการเสพยาได้ เริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง สนใจสั่งซื้อ ที่ตรวจสารเสพติด ไม่ว่าจะเป็นแบบจุ่ม หรือแบบหยด สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่บริษัท เอ็นเจที แอร์ แอนด์ ซี โลจิสติคส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่าย ชุดตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ ที่มีคุณภาพและมีใบรับรองผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ FSC , ISO 13485 และ CE Mark (IVD) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ท่านที่สนใจสามารถคลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดต่อสอบถามเพิ่มได้ทันที ที่ njt-drugtest.com