ในปัจจุบัน ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม การตรวจหาสารเสพติดจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันและบำบัดผู้เสพ โดยวิธีการตรวจสารเสพติดมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความสะดวก การตรวจสารเสพติดด้วยตัวเองด้วยที่ตรวจสารเสพติดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นส่วนตัวในการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย โดยไม่ต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หรือห้องปฏิบัติการที่มีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งมีวิธีการหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความต้องการของบุคคล
การตรวจสอบสารเสพติดด้วยตัวเองสามารถช่วยลดการแพร่กระจายของสารเสพติดในกลุ่มคนใกล้ชิด เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือสถานที่ทำงาน เมื่อเราสามารถรู้ได้ว่ามีการใช้สารเสพติด เราสามารถให้ความช่วยเหลือหรือดำเนินการตามความเหมาะสมได้ทันที
การใช้สารเสพติดสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ การตรวจสอบสารเสพติดอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยในการป้องกันและรักษาโรคที่เกิดจากการใช้สารเสพติดได้
การมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจสอบสารเสพติดทำให้เราสามารถตระหนักถึงความเสี่ยงและผลกระทบจากการใช้สารเสพติดได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจและปฏิบัติตนในทางที่เหมาะสม
ขั้นตอนการตรวจ
1. เตรียมอุปกรณ์:ที่ตรวจสารเสพติดชนิดนี้มักจะประกอบด้วยแผ่นทดสอบหรือแถบตรวจสารเสพติด ถ้วยเก็บปัสสาวะ และคำแนะนำการใช้งาน
2. เก็บตัวอย่างปัสสาวะ: ใช้ถ้วยเก็บปัสสาวะสะอาดเพื่อเก็บตัวอย่างปัสสาวะในช่วงเช้าตรู่ ซึ่งเป็นช่วงที่ปัสสาวะมีความเข้มข้นสูงสุด
3. วิธีทำการทดสอบ
4. อ่านผลทดสอบ: แปลผลการทดสอบตามคำแนะนำที่แนบมากับชุดตรวจสารเสพติดโดยดูจากการเปลี่ยนสี หรือเส้นที่ปรากฏบนแผ่นทดสอบ หากมีเส้นสีขึ้นที่ตำแหน่ง C และ ตำแหน่ง T แสดงว่าไม่มีการพบสารเสพติดในตัวอย่างปัสสาวะ แต่หากมีเส้นสีขึ้นที่ตำแหน่ง C เพียงเส้นเดียว แสดงว่ามีการพบสารเสพติดในตัวอย่างปัสสาวะ
#ข้อดี รวดเร็ว ใช้งานง่าย สามารถทำได้ทุกที่และมีความแม่นยำ
ขั้นตอนการตรวจ
1. เตรียมอุปกรณ์:ที่ตรวจสารเสพติดชนิดนี้มักจะประกอบด้วยตลับทดสอบ หลอดหยด ถ้วยเก็บปัสสาวะ และคำแนะนำการใช้งาน
2. เก็บตัวอย่างปัสสาวะ: ใช้ถ้วยเก็บปัสสาวะสะอาดเพื่อเก็บตัวอย่างปัสสาวะในช่วงเช้าตรู่ ซึ่งเป็นช่วงที่ปัสสาวะมีความเข้มข้นสูงสุด
3. วิธีทำการทดสอบ
4. อ่านผลทดสอบ: แปลผลการทดสอบตามคำแนะนำที่แนบมากับชุดตรวจสารเสพติดโดยดูจากการเปลี่ยนสี หรือเส้นที่ปรากฏบนตลับทดสอบ หากมีเส้นสีขึ้นที่ตำแหน่ง C และ ตำแหน่ง T แสดงว่าไม่มีการพบสารเสพติดในตัวอย่างปัสสาวะ แต่หากมีเส้นสีขึ้นที่ตำแหน่ง C เพียงเส้นเดียว แสดงว่ามีการพบสารเสพติดในตัวอย่างปัสสาวะ
#ข้อดี รวดเร็ว ใช้งานง่าย สามารถทำได้ทุกที่และมีความแม่นยำ
ขั้นตอนการตรวจ
1. เตรียมอุปกรณ์: ชุดตรวจสารเสพติดเลือดที่ประกอบด้วยเข็มเก็บเลือดและแผ่นทดสอบ
2. เก็บตัวอย่างเลือด: ใช้เข็มเจาะเลือดที่นิ้วหรือแขนเพื่อเก็บตัวอย่าง
3. ทำการทดสอบ: หยดเลือดลงบนแผ่นทดสอบตามคำแนะนำ
4. อ่านผลทดสอบ: ตรวจสอบผลจากแผ่นทดสอบตามเวลาที่กำหนด
#ข้อดี มีความแม่นยำสูงและสามารถตรวจพบสารเสพติดในระดับต่ำได้
ขั้นตอนการตรวจ
1. เก็บตัวอย่างเส้นผม: ตัดเส้นผมที่ใกล้หนังศีรษะประมาณ 5 นิ้ว (3-4 ซม.)
2. ส่งตัวอย่าง: ส่งตัวอย่างเส้นผมไปยังห้องปฏิบัติการที่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจสารเสพติด
3. รอผลตรวจ: ห้องปฏิบัติการจะทำการตรวจและส่งผลกลับมา
#ข้อดี สามารถตรวจพบสารเสพติดย้อนหลังได้นานถึง 90 วัน เหมาะสำหรับการติดตามผลการบำบัดรักษา
การตรวจสารเสพติดด้วยตัวเองเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย โดยมีวิธีการที่สะดวกและรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ควรใช้งานอย่างระมัดระวังและทำความเข้าใจในข้อจำกัดของชุดตรวจเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและเชื่อถือได้ การตรวจสารเสพติดด้วยตัวเองไม่ได้ทดแทนการตรวจจากแพทย์หรือห้องปฏิบัติการ แต่เป็นวิธีที่ช่วยให้เราได้รับข้อมูลเบื้องต้นที่เป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพของตนเองและคนรอบข้าง
การซื้อที่ตรวจสอบสารเสพติดที่มีคุณภาพ สามารถช่วยการันตีการตรวจสอบสารเสพติดได้อย่างปลอดภัยและให้ผลลัพธ์อย่างแม่นยำ สนใจติดต่อซื้อชุดตรวจสารเสพติดออนไลน์ได้ง่ายๆ ทั้งแบบจุ่มและแบบตลับ พร้อมส่งทั่วไทย ได้ที่ http://njt-drugtest.com/
ที่ตั้ง
269/147 ถนนราษฏร์พัฒนา แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
เกี่ยวกับเรา
บริษัท เอ็นเจที แอร์ แอนด์ ซี โลจิสติคส์ จำกัด ได้เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2556 เราเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายชุดตรวจสารเสพติดในปัสสาวะที่มีคุณภาพและมีใบรับรองผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ FSC , ISO 13485 และ CE Mark (IVD) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล