การ ตรวจสารเสพติด ในโรงเรียนที่คุณควรทราบ

ทุก ๆ ปีการใช้สารเสพติดเป็นปัญหาที่เรื้อรังและเพิ่มขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเด็กที่อายุน้อยกว่า เพื่อเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ หลักฐานจากการวิจัยชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงของนักเรียนที่มาโรงเรียนภายใต้อิทธิพลของยาเสพติด หรือการนำยาเข้าโรงเรียน เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ยาเสพติดไม่เพียงส่งผลกระทบต่อเด็กที่เสพเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลกระทบต่อนักเรียนคนอื่น ๆ ด้วยพฤติกรรมก่อกวนที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติด ส่งผลต่อการเรียนรู้และความปลอดภัยของนักเรียนคนอื่น ๆ .

โรงเรียนหลาย ๆ แห่งจึงเริ่มสุ่มตรวจด้วย ที่ตรวจสารเสพติด จากเด็กนักเรียนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว อารมณ์รุนแรง หรือมีวิสัยผิดปกติจากเด็กนักเรียนทั่วไป ซึ่งหัวข้อที่จะอธิบายในบทความนี้จะเกี่ยวกับการตรวจหายาเสพติดในโรงเรียน ดังนี้

  • การใช้สารเสพติดนอกโรงเรียน
  • การใช้สารเสพติดในโรงเรียน
  • โรงเรียนควรตรวจหาสารเสพติดชนิดใด
  • โรงเรียนควรใช้ชุด ตรวจสารเสพติด แบบใด
ตรวจสารเสพติด

การใช้สารเสพติดนอกโรงเรียน

เรามักได้ยินข่าวบ่อย ๆ เกี่ยวกับการใช้สารเสพติดของวัยรุ่นนอกโรงเรียน โดยเฉพาะการเสพกัญชาและกัญชาสังเคราะห์ (K2) ที่สามารถส่งผลอย่างชัดเจนต่อบุคลิกภาพและสุขภาพจิต และยาอาจเพิ่มความเสี่ยงของความอย่างรุนแรงและความก้าวร้าวในนักเรียนที่รับยาเหล่านี้ ส่งผลให้การเรียน และความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างลดลง วิธีตรวจสอบที่ง่ายที่สุดคือการสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลานของท่าน หากมีความสงสัยสามารถพูดคุย เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ซึ่งในส่วนนี้ผู้ปกครองต้องคอยเป็นหูเป็นตา และสอดส่องพฤติกรรมของบุตรหลาน 

การใช้สารเสพติดในโรงเรียน

ครูอาจารย์มีหน้าที่ดูแลนักเรียนในโรงเรียน ไม่เพียงแต่สร้างสภาพแวดล้อมในโรงเรียนที่ปลอดภัยและสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ดี แต่ยังต้องดูแลสวัสดิภาพของนักเรียน และคอยสังเกตปัญหาต่าง ๆ เช่น นักเรียนแอบมีการใช้สารเสพติดหรือไม่ 

นักเรียนที่เสพยาและขายยาให้นักเรียนคนอื่น ๆ ทั้งที่โรงเรียนหรือระหว่างทางไปหรือกลับจากโรงเรียน ก็เป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับโรงเรียนเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เองครูอาจารย์จึงต้องระมัดระวัง โดยครูอาจารย์ต้องคอยตระหนักว่านักเรียนในโรงเรียนอาจมีการใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ และอาจต้องพิจารณาเรื่องนี้ด้วยเมื่อร่างนโยบายการทดสอบสารเสพติดและแอลกอฮอล์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องได้รับความยินยอมเพื่อทำการทดสอบสารเสพติดกับนักเรียนหรือเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนเสมอ หากครูอารจารย์ต้องการทดสอบสารเสพติดกับนักเรียน ก่อนอื่นคุณต้องได้รับความยินยอมจากพวกเขา และได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองด้วย 

เนื่องจากการใช้สารเสพติดในปัจจุบันนั้นแพร่หลายในกลุ่มวัยรุ่น จึงใครขอแนะนำว่าทุกโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนมัธยมศึกษาควรมีนโยบายเกี่ยวกับยาเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าการเข้าเรียนในโรงเรียนขณะที่อยู่ภายใต้ฤทธิ์ยาหรือแอลกอฮอล์ หรือการนำยาเสพติดเข้ามาในโรงเรียนนั้นไม่สามารถทำได้ 

โรงเรียนควรตรวจหาสารเสพติดชนิดใด

ยาที่ควรมีการคัดกรอง คือ กัญชา และกัญชาสังเคราะห์ เพราะเป็นสารเสพติดที่มีแนวโน้มว่าจะมีมากที่สุดในกลุ่มอายุนี้ นั่นคือกลุ่มวัยรุ่น นอกจากนี้ยังควรทดสอบหา คีตามีน ฝิ่น แอมเฟตามีน MDMA (อีซี) เมทแอมเฟตามีน (เมทคริสตัล) และ เบนโซไดอะซีพีน แต่จะตรวจพบได้น้อยกว่ากัญชา ซึ่ที่ตรวจสารเสพติด ของบริษัท เอ็นเจที แอร์ แอนด์ ซี โลจิสติคส์ จำกัด มีที่ตรวจสารเสพติดที่สามารถตรวจหายาเหล่านี้ได้

โรงเรียนควรใช้ที่ ตรวจสารเสพติด แบบใด

ที่ตรวจสารเสพติดในโรงเรียนที่แนะนำจะเป็น ชุดตรวจสารเสพติด ในปัสสาวะ กับ น้ำลาย การทดสอบยาในน้ำลายจะบอกคุณว่านักเรียนอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยาเสพติดหรือไม่ในขณะที่พวกเขาอยู่ที่โรงเรียน เนื่องจากระยะเวลาการตรวจจับค่อนข้างสั้น ส่วนการทดสอบสารเสพติดในปัสสาวะจะบอกคุณว่าพวกเขากำลังใช้ยานอกเวลาเรียนและวันหยุดสุดสัปดาห์หรือไม่ เนื่องจากระยะเวลาการตรวจจับยานั้นยาวนานกว่า 

วิธีการทดสอบสารเสพติดในปัสสาวะ

การทดสอบยาในปัสสาวะทำได้หลากหลายรูปแบบ การทดสอบสามารถทำได้ที่โรงพยาบาล ห้องปฏิบัติการ โปรแกรมการบำบัดการใช้สารเสพติด หรือตรวจเองได้ โดยใช้ที่ตรวจสารเสพติด ปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบบ เช่น

แบบจุ่ม (Strip)

ปัสสาวะใส่ในภาชนะที่แห้งและสะอาด จากนั้นจุ่มแถบทดสอบลงไปในปัสสาวะ โดยให้ปลายลูกศรชี้ลง และระวังไม่ให้ปัสสาวะสูงเลยขีดที่กำหนดไว้บนแถบ จากนั้นวางแถบทดสอบในแนวราบ รอ 5 นาทีแล้วจึงอ่านผล

แบบหยอด (Cassette)

ปัสสาวะใส่ภาชนะที่แห้งสะอาด จากนั้นวางตลับทดสอบไว้บนพื้นในแนวราบ และใช้หลอดหยดดูดปัสสาวะขึ้นมา และหยดลงในหลุมที่อยู่บนตลับทดสอบ 3 หยด วางตลับทดสอบไว้ในแนวราบและรอ 5 นาทีจึงอ่านผล

วิธีการทดสอบสารเสพติดในน้ำลาย

โดยวิธีการใช้ที่ตรวจจากสารเสพติดจากน้ำลายแต่ละบุคคลไม่ต้องรับประทานอาหารหรือดื่มอะไรเป็นเวลาเพียง 10 นาทีก่อนการทดสอบ ต่อมาใช้ใช้ฟองน้ำหรือก้านสำลีถูด้านในกระพุ้งแก้ม เวลาในการรวบรวมตัวอย่างค่อนข้างรวดเร็ว โดยใช้เวลา ประมาณ 1–3 นาที หากการวิเคราะห์ในสถานที่จริง ผลลัพธ์จะพร้อมภายในไม่กี่นาที หากตัวอย่างไปที่ห้องปฏิบัติการเพื่อทำการวิเคราะห์ จะใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสารส่วนใหญ่ไม่อยู่ในของเหลวในช่องปากตราบเท่าที่ยังอยู่ในปัสสาวะ วิธีการทดสอบนี้จึงมีประโยชน์เฉพาะเมื่อพยายามตรวจหาการใช้ยาเสพติดล่าสุด

การสุ่มทดสอบสารเสพติดถือเป็นเรื่องปกติในโรงเรียน โดยเหตุการที่นำมาซึ่งการตรวจหาสารเสพติดคือเมื่อมีเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุเกิดขึ้นในโรงเรียน และคิดว่านักเรียนที่เกี่ยวข้องอยู่ภายใต้อิทธิพลของยาเสพติด การทดสอบยาจะดำเนินการเพื่อยืนยันหรือลบล้างความสงสัย 

หากโรงเรียนมีความสนใจสั่งซื้อที่ ตรวจสารเสพติด ไม่ว่าจะเป็นแบบจุ่ม หรือแบบหยด สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่บริษัท เอ็นเจที แอร์ แอนด์ ซี โลจิสติคส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่าย ชุดตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ ที่มีคุณภาพและมีใบรับรองผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ FSC , ISO 13485 และ CE Mark (IVD) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ท่านที่สนใจสามารถคลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดต่อสอบถามเพิ่มได้ทันที ที่ njt-drugtest.com