นายจ้างทุกแห่งมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน เนื่องจากพนักงานมีการใช้ยาเสพติดเพิ่มขึ้น การศึกษาพบว่าอุบัติเหตุในที่ทำงานเพิ่มขึ้นมากถึง 55 เปอร์เซ็นต์ การขาดงานมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ และการใช้เฮโรอีนในทางที่ผิดเพิ่มขึ้นเกือบ 300 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปีไม่กี่ปีที่ผ่านมา การตรวจฉี่หาสารเสพติดจึงเป็นนโยบายที่หลายบริษัทต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน
การทดสอบสารเสพติดด้วยชุดตรวจสารเสพติดเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเหล่านี้ และมีบทบาทที่จำเป็นในวัฒนธรรมการทำงานปลอดยาเสพติด และเนื่องจากการใช้ยาอาจส่งผลกระทบด้านลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่คำนึงถึงความปลอดภัย บริษัทจึงควรคำนึงถึงประโยชน์ของการตรวจสารเสพติดในที่ทำงานเมื่อจัดทำนโยบายความปลอดภัยใหม่
การใช้ยาเสพติดในที่ทำงานมีผลกระทบด้านลบต่อบริษัทใด ๆ ในอุตสาหกรรมที่มีสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง รวมถึงการขนส่ง การก่อสร้าง ปิโตรเลียม และการผลิต ผลกระทบของทั้งยาผิดกฎหมายและยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์แต่ใช้ในทางที่ผิด ได้แก่ การรับรู้ที่บกพร่อง ทักษะการเคลื่อนไหว และเวลาในการตอบสนอง ซึ่งความบกพร่องเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นเสียชีวิตได้
ผลกระทบด้านลบอื่น ๆ ของการใช้เสพติดในที่ทำงาน ได้แก่
ผลกระทบเชิงลบเหล่านี้สามารถทำลายสภาพแวดล้อมการทำงานและทำให้บริษัทต้องสูญเสียเงินจำนวนมาก การใช้นโยบายตรวจฉี่เพื่อตรวจสอบสารเสพติดในที่ทำงานจะทำให้เห็นปัญหาต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น
การกำหนดให้มีใช้ที่ตรวจสารเสพติดในที่ทำงานสามารถก่อให้เกิดประโยชน์เชิงบวกมากมายในที่ทำงาน ทั้งทางด้านการเงินและทางกฎหมาย ดังนี้
ประการแรกและสำคัญที่สุด การตรวจสารเสพติดในที่ทำงานช่วยส่งเสริมความมีสติ เมื่อทราบดีว่าจะมีการตรวจพบการใช้สารเสพติด คนที่ใช้ารเสพติดจำนวนมากจะลดหรือเลิกใช้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของงานและนโยบายของบริษัท ซึ่งการลดการใช้งานดังกล่าวจะส่งผลดีต่อสุขภาพและความปลอดภัยในวงกว้าง แม้ว่าไม่ได้อยู่ในเวลาทำงานก็ตาม
เมื่อการใช้สารเสพติดลดลง ความบกพร่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาก็จะลดลงตามไปด้วย เช่น เวลาตอบสนอง ทักษะการเคลื่อนไหว การรับรู้ที่ดีขึ้น อุบัติเหตุและการบาดเจ็บที่ตามมาก็จะเกิดขึ้นน้อยลง ความคาดหวังที่สอดคล้องกันในการกำหนดให้ต้องมีการตรวจสารเสพติดในที่ทำงาน ทำให้สามารถมองเห็นสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นได้ในช่วงเวลาอันสั้น
อุบัติเหตุ และการบาดเจ็บ ทำให้ขั้นตอนการทำงานของหลายอุตสาหกรรมช้าลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาชีพที่คำนึงถึงความปลอดภัย แต่เมื่อบริษัทเลือกที่จะใช้สภาพแวดล้อมการทำงานที่ปราศจากยาเสพติดผ่านการทดสอบ นโยบาย และการสนับสนุน พนักงานก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น
ผลลัพธ์ของการใช้ยาในที่ทำงานที่มองเห็นได้ไม่ชัดเจนคือค่ารักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บ เมื่ออุบัติเหตุในที่ทำงานเพิ่มขึ้น ค่าประกันก็เพิ่มขึ้นทั้งสำหรับนายจ้างและลูกจ้าง แต่เมื่อบริษัทต่าง ๆ มุ่งมั่นที่จะสร้างสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยและปลอดยาเสพติด ข้อดีประการหนึ่งคืออัตราการประกันที่ดีขึ้น เนื่องจากมีการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดน้อยลง
การตรวจฉี่หาสารเสพติดในที่ทำงานจำเป็นต้องมีนโยบายเฉพาะเพื่อความปลอดภัยและยังคงปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อสนับสนุนการทดสอบยาในที่ทำงานอย่างถูกต้อง คุณควรปฏิบัติ ดังนี้
วัตถุประสงค์เบื้องหลังนโยบายที่เข้มงวดคือเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทปลอดสารเสพติด ช่วยสร้างวัฒนธรรมที่จัดการกับการใช้ยาเสพติด ให้พนักงานทำงานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
ด้วยระบบสนับสนุนที่แข็งแกร่ง พร้อมด้วยนโยบายที่ชัดเจน สถานที่ทำงานที่ปลอดภัยจึงเป็นไปได้ ด้วยประโยชน์ของการใช้ชุดตรวจสารเสพติดในที่ทำงาน สิ่งสำคัญคือต้องทำให้พนักงานคุ้นเคยกับนโยบาย ซึ่งการทดสอบยาในที่ทำงานเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งในนโยบายด้านความปลอดภัยของบริษัท แต่มีส่วนสำคัญในการรักษาความสม่ำเสมอ มาตรฐานการปฏิบัติงานในระดับสูง และการฝึกอบรมสำหรับผู้จัดการเพื่อให้ทีมของตนมีความรับผิดชอบและปลอดภัย
สนใจสั่งซื้อชุดตรวจยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นแบบจุ่ม หรือแบบหยด สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่บริษัท เอ็นเจที แอร์ แอนด์ ซี โลจิสติคส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่าย ชุดตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ ที่มีคุณภาพและมีใบรับรองผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ FSC , ISO 13485 และ CE Mark (IVD) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ท่านที่สนใจสามารถคลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดต่อสอบถามเพิ่มได้ทันที ที่ https://njt-drugtest.com
ที่มาข้อมูล: pharmchek.com
ที่ตั้ง
269/147 ถนนราษฏร์พัฒนา แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
เกี่ยวกับเรา
บริษัท เอ็นเจที แอร์ แอนด์ ซี โลจิสติคส์ จำกัด ได้เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2556 เราเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายชุดตรวจสารเสพติดในปัสสาวะที่มีคุณภาพและมีใบรับรองผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ FSC , ISO 13485 และ CE Mark (IVD) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล